การสอนลูกนอนเอง ตอนที่ 6
และแล้ววันนี้ก็มาถึง..... หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้วในตอนนี้จะเป็นรายละเอียดในวันที่เริ่มหัดนะคะ
หลังจากเราเช็คทุกอย่างแล้วทุกอย่างพร้อม สูดหายใจลึกๆ อย่ากังวลเชื่อหรือไม่ว่าถ้าเรากังวลหรือกระสับกระส่าย ลูกรู้นะคะเค้าสัมพัสได้ว่ามีสิ่งผิดปกติเพราะฉะนั้นใจเย็นๆค่ะ มั่นใจแม่ๆทั่วโลกหัดลูกนอนกันทั้งนั้นเพราะฉะนั้นถ้าคนอื่นๆทำได้เราก็ทำได้เช่นกันค่ะ
สำหรับคนที่สงสัยนะคะว่าควรหัดนอนกลางวันควบคู่ไปด้วยหรือไม่คำตอบคือไม่ควรค่ะ เพราะว่าในการนอนตอนกลางคืนร่างกายคนเราผลิตฮอโมนและหลั่งสารอะไรต่อมิอะไรออกมามากมายซึ่งช่วยในการหลับสำหรับเด็กเล็กตัวช่วยให้หลับนี้ทำงานดีมากโดยเฉพาะในช่วงหัวค่ำเรียกได้ว่าจะปลุกให้ตื่นยังยากกว่าแต่ในช่วงกลางวันร่างกายเราไม่มีตัวช่วยพวกนี้ทำให้การหัดนอนในช่วงกลางวันนั้นยากกว่ามากร้องเยอะและร้องนานสุดท้ายไม่ได้นอนซะส่วนใหญ่ผลก็คือง่วงเกินไปทำให้หลับยากในตอนกลางคืนเพราะฉะนั้นควรหัดกลางคืนก่อนพอเข้าที่เข้าทางนอนหลับดีช่วงกลางคืนซักเดือนสองเดือนค่อยมาคิดเรื่องหัดนอนตอนกลางวัน
เริ่มคืนแรก
ก่อนนอนเราก็ทำกิจวัตรก่อนนอนตามปกติ ทำเสร็จเราก็วางเค้าลงในเปล(สลึมสลือแต่ยังไม่หลับ) ห้ามสบตานะคะพอวางลงถ้าเค้าหลับต่อก็ปล่อยเค้าไป ออกจากห้องมาเงียบๆแล้วลองใหม่อีกทีคืนถัดมา(จริงๆควรจะแค่ให้ครึ่งหลับครึ่งตื่นแต่ถ้าหลับไปแล้วจะปลุกขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่อง) แต่ถ้าวางปุ๊ปลืมตาปั๊บแล้วร้องลั่นก็ใจเย็นๆค่ะหันหลังเดินออกจากห้องเงียบๆทีนี้เราก็ทำตามแผนที่เราร่างไว้สำหรับคนที่เลือกที่จะเช็คออกมาจากห้องก็เริ่มจับเวลา 5 นาทีเช็คครั้งถัดมาก็ 10 นาทีครั้งต่อๆไปคือ15 นาทีจนกว่าจะหลับถ้าเราฟังเสียงเค้าร้องแล้วรู้สึกว่าเค้าพยายามจะหลับ คือร้องไม่ต่อเนื่องเงียบไปแล้วบ้างแล้วร้องครางเบาๆไม่สุดเสียงถึงแม้จะครบเวลาเช็คก็อย่าเพิ่งรีบเข้าไปนะคะเราแนะนำให้รอดูท่าทีไปก่อนซักสองสามนาที เผื่อว่าเค้ากำลังจะหลับสำคัญคือเวลาเข้าไปเช็คเข้าไปเงียบๆนะคะ ไม่เปิดไฟ ค่อยๆเดินเข้าไปไม่ตูมตามเสียงดังอะไรที่ขวางทางอาจจะสะดุดล้มได้ก็เอาออกไปจากห้องซะแต่เนิ่นๆ(ประสบการ์ณตรง ล้มมาแล้ว ฮาาา) เดินไปถึงก็ลูบหัวลูบหลังไม่สบตาจะพูดอะไรก็เลือกไว้ก่อนพยายามพูดคำเดิมซ้ำๆเช่นนอนนะลูก หรืออะไรก็ว่าไปเพราะถ้าพูดบ่อยๆเค้าจะจำได้ว่าคำนี้หมายถึงนอน อยู่ในห้องไม่ควรเกินสองนาที ไม่อุ้มเค้าออกจากเปล พอปลอบจากนอกเปลเสร็จแล้วก็หันหลังเดินออกมาเลย เค้าจะหยุดร้องหรือไม่ไม่สำคัญ สำหรับคนที่เลือกที่จะไม่เช็คพอออกมาแล้วก็หาอะไรทำค่ะอย่าไปนั่งเศร้าหน้าจอมอนิเตอร์หาอะไรทำจะได้ไม่หมกมุ่นมากดูหนังไปอะไรไปถ้าท้อมากก็เอากระดาษที่จดเหตุผลที่เราหัดลูกนอนไว้มาอ่านเตือนใจตัวเอง
ทำยังไงถ้าหลับไปแล้วตื่นมาร้องกลางดึก?
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเค้าร้องเพราะว่าหิวหรือร้องเพราะว่านอนเองไม่เป็นถ้าสมมุติว่านอนไปสองชั่วโมงแล้วตื่นมาร้อง ก็เดาเอาได้ว่าไม่น่าจะหิวเราก็ทำเหมือนตอนเอาเข้านอนอ่ะค่ะถ้าเลือกเช็คก็จับเวลา 5 นาที ไป 10 นาที ครั้งต่อๆไป 15 นาทีถ้าไม่เช็คก็ปล่อยค่ะ จนกว่าจะหลับแต่ถ้าเวลาก่ำกึ่งไม่ห่างจากเวลาให้นมมากก็อาจจะหิวเพราะว่าห่างจากมื้อสุดท้ายมานานพอสมควรถึงแม้ว่าจะเร็วกว่าเวลากินนมปกตินิดหน่อย(30นาที-1ชั่วโมง) เราแนะนำว่าควรที่จะเข้าไปให้นมนะคะเพราะถ้าปล่อยให้ร้องแล้วพอถึงเวลากินนมแล้วยังไม่หยุดร้องจะเข้าไปให้นมเฉยๆซะงั้นไม่ได้นะคะเพราะเค้าจะคิดว่าถ้าร้องนานพอแม่จะเข้ามาหาเองทำให้ครั้งต่อไปร้องนานกว่าเดิมมันจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีแต่ถ้าถึงเวลาให้นมแล้วแต่ยังหลับอยู่? อันนี้ดีเลยค่ะเราจะเข้าไปให้นมแบบดรีมฟีด(Dream feed) คือเข้าไปเงียบๆเอาเค้าออกมาจากเปลแล้วก็ให้นม เค้าจะกึ่งหลับกึ่งตื่นพยายามให้กินจนกว่าจะอิ่มนะคะเพราะถ้าเค้าเผลอหลับระหว่างกินแล้วกินไม่อิ่มจะทำให้ต้องตื่นมาให้อีกรอบได้ ถ้าเค้าหลับไปเมื่อกินนมเสร็จก็เอาวางลงในเปลเลยแต่ถ้าไม่หลับก็ไม่ควรพยายามทำให้หลับ(ด้วยการแกว่งหรือให้ดูดคาเต้าทั้งๆที่อิ่มแล้ว หรือวิธีอื่นๆ) ก็เอาวางลงเปลไปเลยทั้งที่ยังตื่นอยู่แล้วก็ค่อยๆเดินออกมาถ้าไม่ร้องก็ดีไปแต่ถ้าร้องก็ทำอย่างเดียวกันกับตอนเอาเข้านอน
สำหรับเด็กที่ต่ำกว่าหกเดือนเราอาจจะต้องให้นม 1-2 ครั้งต่อคืนขึ้นอยู่กับว่ากินพอไหมช่วงกลางวัน สำหรับดรีมฟีดนี้เราจะให้ไปเรื่อยๆจนกว่าเค้าจะกินข้าวเต็มที่ครบสามมื้อและไม่ได้กินนมเป็นอาหารหลักอีกต่อไป(ประมาณ 8-12 เดือน) สำหรับบ้านเราเราวางแผนที่จะดรีมฟีดดีแลนไปจนเค้าขวบนึง ดรีมฟีดควรจะให้เวลาเดิมทุกๆวันถ้าให้ครั้งเดียวต่อคืนเราแนะนำประมาณห้าทุ่ม คือก่อนที่พ่อแม่จะเข้านอน(สมมุติว่าเวลาลูกเข้านอนคือทุ่ม-ทุ่มครึ่งนะคะ ถ้านอนดึกกว่านั้นก็คำนวนเอาเองว่าควรจะเป็นกี่โมง) แต่บ้านเราให้ตอนตีหนึ่งเพราะว่าเรากับสามีเข้านอนเร็ว(สามทุ่มอ่ะเร็วจริงๆ) คือไหนๆก็ต้องนอนก่อนแล้วตื่นมาให้อยู่ดี(เพราะสามทุ่มมันเร็วเกินไป)ก็เลยเลือกที่จะให้ช่วงกลางๆระหว่างคืน เคยให้เค้าตอนสี่ทุ่มเค้าไม่หิวพอกินครึ่งขวดก็หลับ คือดรีมฟีดจริงๆวัตถุประสงค์นั้นเพื่อให้พ่อแม่ให้นมลูกก่อนที่ตัวเองจะเข้านอน เพราะลูกอาจจะยังไม่สามารถที่จะไม่กินนมติดต่อกันนานถึง 12 ชั่วโมงได้ การให้ตอนประมาณห้าทุ่มเค้าก็จะนอนยาวถึงเช้ากว่าจะหิวอีกรอบ คืออยู่ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง เพื่อที่พ่อแม่จะได้ไม่ต้องตื่นกลางดึกมาให้นมสำหรับวิธีเลิกดรีมฟีดก็คือลดปรมาณของนมที่ให้ครั้งละประมาณ20มิลลิลิตทุกๆอาทิตย์ เช่นปกติให้150 มิล อาทิตย์ต่อมาก็ลดเป็น 130 มิล และ 110 มิลอาทิตย์ต่อไป จะลดปริมาณทุกๆสามสี่วันก็ได้นะคะถ้าคิดว่าอาทิตย์นึงมันนานไปเราแนะนำอาทิตย์นึงเพราะเผื่อไว้เด็กเล็กๆอาจจะต้องการเวลานานกว่าเพื่อปรับตัว พอลดไปจนถึง 20มิลอาทิตย์ต่อมาก็เลิกเลยค่ะเพราะแน่นอนว่าเค้าไม่หิวแน่นอนถ้าเค้าตื่นมาร้องหานมก็ปล่อยค่ะถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะร้องนิดเดียวแล้วก็กลับไปหลับต่อ
ข้อยกเว้นคือถ้าเค้าตื่นมาร้องช่วงประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนเวลาตื่นปกติ(ประมาณตีสี่ตีห้าได้) ให้เรารอดูท่าทีซัก 15-20 นาทีถ้าไม่มีวี่แววว่าจะนอนต่อก็ตื่นเลยค่ะเปิดไฟเอาลูกออกจากเปลมานั่งเล่นกินขนมกินนมไรไปจนถึงเวลานอนกลางวัน (ขยับเร็วขึ้นมาหน่อยนะคะจะได้ไม่ง่วงมากเกินไป) ก็เอาเค้าเข้านอนกลางวันไปในช่วงนี้อาจจะต้องเอาเข้านอนกลางวันบ่อยกว่าปกติสาเหตุที่ทำแบบนี้เพราะว่าเวลาเค้าตื่นใกล้เช้าแล้วเนี่ยปล่อยให้ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะเค้าไม่ง่วงมากจนถึงขนาดกลับไปหลับต่อได้อีกต่อไปผลที่ตามมาคือเค้าจะร้องจนกว่าจะมีคนมาอุ้มออกจากเปลทางที่ดีที่สุดคือตื่นเริ่มวันใหม่กันไปเลยแล้วไปชดเชยตรงที่นอนกลางวันเอาการตื่นเร็วนี้ปกติจะเป็นแค่ไม่กี่วันพอเค้าเริ่มนอนเองเก่งแล้วเค้าก็จะเริ่มตื่นเวลาปกติเอง
เด็กบางคนร้องไห้มากๆแล้วแหว่ะออกมา ไม่มีใครอยากให้มันเกิดจะเลี่ยงก็ไม่ได้เสมอไปถ้ามันเกิดขึ้นกับเราก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ใจเย็นๆค่ะเข้าไปทำความสะอาดเปลี่ยนชุดเปลี่ยนที่นอน เปิดไฟหรี่ๆทำให้เร็วและเงียบที่สุดวางเค้าลงเปลแล้วก็เดินออกมาถ้ารู้ว่าลูกเราเป็นประเภทร้องแล้วแหว่ะคืนต่อๆไปก็ทิ้งระยะเวลาให้นมหรืออาหารมื้อสุดท้ายกับเวลานอนนานนิดนึงนะคะ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงน่าจะพอ
เมื่อการหัดนอนไม่เป็นตามที่คาดไว้!
จากประสบการ์ณเรารวบรวมปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นสาเหตุและวิธีแก้ไขมาให้นะคะ
1 ตื่นเช้ามาก ในช่วงอาทิตย์แรกที่หัดลูกอาจจะตื่นเช้ามากอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าถ้าเค้าตื่นมาร้องประมาณตี 4-5 เราไม่ปล่อยให้ร้องนะคะเพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้า 15-20 นาทีไม่มีวี่แววที่จะหลับก็ไปเอาเค้าออกมาจากเปลสำคัญคือไม่ควรเอาเข้ามานอนด้วยกับพ่อแม่ รู้ว่าคุณแม่อาจจะง่วงไม่อยากตื่นแต่ก็ต้องกัดฟันตื่นค่ะเริ่มวันกันตั้งแต่ตีสี่เลยตื่นมาให้นมกินนั่งเล่นกันไปเพิ่มรอบนอนกลางวันในตอนเช้าเค้าจะได้ไม่เหนื่อยมากการตื่นมาร้องตีสี่ตีห้านี้พอเค้าเริ่มชินกับการนอนเองเป็นไม่เกินอาทิตย์ก็จะหยุดไปเองสำหรับเด็กที่นอนเองเป็นแล้วแต่อยู่ดีๆมาตื่นแต่เช้ามืดบ่อยๆนี่คนละปัญหานะคะไว้จะเขียนเรื่องนี้ในตอนหลังๆ
2 ร้องไปจนหลับคุณแม่โล่งใจนึกว่าจบแต่ตื่นมาร้องอีกชุดใหญ่แล้วนานด้วยอันนี้มีสองสาเหตุสาเหตุแรกคือเวลาเข้านอนเร็วเกินไปลูกงีบไปแล้วตื่นมาร้องเพราะว่าร่างกายเค้าบอกว่ายังไม่ถึงเวลาเข้านอนอันนี้แก้โดยการหาว่าเวลาเข้านอนคือกี่โมงวิธีหาเราเขียนบอกไว้ในตอนก่อนหน้านี้สาเหตุที่สองคือนอนกลางวันมากเกินไปไม่ว่าจะนอนนานเกินไปหรือนอนหลายรอบเกินไปอันนี้จะเป็นไปได้มากกับเด็กที่นอนกลางวันสั้นคือนอนทีละครึ่งชั่วโมงสามสี่รอบ(หรือมากกว่า) อันนี้ทำให้เค้างีบแล้วตื่นมาร้องได้เหมือนกัน วิธีแก้คือแก้ที่นอนกลางวันซึ่งถ้าจะเขียนตรงนี้จะยาวมากเกินไปไว้จะมาเขียนให้ในตอนต่อๆไปสำหรับพ่อแม่ที่เริ่มหัดแล้วเจอปัญหานี้นะคะ แก้ไม่ทันแล้วค่ะอย่าไปพยายามลดการนอนกลางวันเค้า เริ่มตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะถ้าจะทำต้องเริ่มหลายอาทิตย์ก่อนหน้านี้เพราะการปรับตารางการนอนใช้เวลานานกว่าจะเข้าที่ การร้องอันนี้ส่วนใหญ่จะแตกต่างจากตอนหัวค่ำเหมือนๆจะเป็นการต่อว่ามากกว่า ไม่เต็มที่สุดเสียง แนะนำคือกัดฟันทนไปสามสี่วันก็จะดีขึ้นเอง
3 ในช่วงหัวค่ำเอาเข้านอนพอวางลงเปลแล้วร้องนานเกินชั่วโมงครึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เด็กที่ร้องนานมีสาเหตุที่พบมีเหตุใหญ่ๆ สามประการคือเวลานอนเร็วเกินไป ไม่ง่วงพออย่างที่กล่าวไปแล้วว่าร่างกายเราหลั่งสารอะไรต่อมิอะไรออกมามากมายมาช่วยให้หลับถ้าเราให้เค้าเข้านอนเร็วเกินไปไอ้ตัวช่วยพวกนี้ยังไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่ผลที่ได้ก็คือลูกร้องจนกว่าร่างกายจะบอกว่าถึงเวลานอนแล้วสาเหตุต่อมาคือ พ่อแม่เลือกวิธีเช็ค วิธีเช็คนี่ได้ผลดีต่อเด็กบางคนแต่เท่าที่คุยกับแม่ๆมาส่วนใหญ่จะทำให้ร้องนานกว่าเดิมเพราะเหมือนไปให้ความหวังโผล่หน้าเข้าไปเรื่อยๆแต่ไม่ช่วยให้นอนหลับ คุณแม่หวังดีแต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยจะดีอย่างที่หวัง วิธีแก้คือเปลี่ยนไปใช้วิธีหักดิบแทน สาเหตุสุดท้ายคือความไม่สม่ำเสมอ พ่อแม่บางคนสองจิตสองใจ ปล่อยให้ร้องเสร็จแล้วก็ยอมแพ้เข้าไปอุ้ม แล้วอาทิตย์ต่อมาเปลี่ยนใจเริ่มหัดอีกดีกว่า บางคนเลือกที่จะเช็คแล้วก็เปลี่ยนมาไม่เช็คเสร็จแล้วเปลี่ยนใจไปเช็คอีกรอบ หรือเวลาการเช็คไม่มีแบบแผน 5 นาทีไป 10 นาทีแล้วกลับมา 5 นาทีอีกสับสนไปหมด การหัดนอนสำคัญมากคือความสม่ำเสมอ จะทำอะไรให้ติดเป็นนิสัยต้องทำเหมือนเดิมทุกครั้งเป็นเวลานานๆ วิธีป้องกันคือร่างแผนการไว้ล่วงหน้า และพยายามทำตามแผนที่ร่างไว้ อย่าออกนอกลู่นอกทาง
4 ช่วงหัวค่ำวางลูกลงนอนลูกนอนเองไม่ร้องนอนยาวสามสี่ชั่วโมง แต่พอยิ่งดึกยิ่งตื่นมาร้องบ่อย พอตื่นมาบางทีก็กลับไปหลับเองบางทีก็ร้องนานไม่ยอมหลับ ความถี่ในการตื่นมาร้องจะถี่มากขึ้นเมื่อใกล้เช้า อันนี้ปัญหาอยู่ที่กิจวัตรก่อนนอน อันนี้ต้องมาดูว่าเราวางเค้าลงในเปลหลับสนิทเกินไปหรือเปล่า ถ้าปกติหลับสนิทก็ให้เริ่มวางในเปลสลึมสลือ หรืออาจสลึมสลือมากเกินไปก็ให้วางทั้งๆที่ตื่นอยู่ สาเหตุอื่นๆคือป้อนนมใกล้เวลานอนมากเกินไป คุณแม่อยู่ในห้องนานเกินไปหลังจากวางลงในเปล พูดง่ายๆคือไอ้ตัวช่วยในการนอนที่เราต้องการกำจัดนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นตอนกำลังจะหลับเท่านั้น เค้าอาจจะเชื่อมโยงการนอนกับตัวช่วยนี้ได้นานถึง 15-20 นาทีก่อนนอน พอตื่นขึ้นมากลางดึกก็เรียกหาตัวช่วยนี้เพราะยังตัดตัวช่วยออกไปไม่ขาด วิธีแก้ก็คือลองเปลี่ยนตารางกิจวัตรก่อนนอนดู สับไปสับมา เคยป้อนนมก่อนลงเปลก็เปลี่ยนไปป้อนก่อนอาบน้ำ หรือสลับไปมาดูว่าอันไหนดีแล้วก็ทำแบบนั้นไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ดูว่าการตื่นช่วงดึกลดน้อยลงหรือไม่ ถ้าไม่ก็สลับอีก ทดลองไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอกิจวัตรที่เหมาะสม
5 ลูกร้องตั้งแต่ยังไม่วางลงเปล เริ่มงอแงตั้งแต่จับอาบน้ำ หรือพาเข้าห้องนอน อันนี้ปกติจะเริ่มหลังจากเราเริ่มหัดไปได้สองสามวัน ซึ่งไม่ต้องกังวล อาการนี้จะหายไปเองหลังจากอาทิตย์สองอาทิตย์ ตอนหัดบีบีเค้าโตพอรู้เรื่องแล้ว ช่วงสองสามอาทิตย์แรกเค้าจะงอแงมากก่อนนอน ติดแม่มากกว่าปกติเพราะกลัวโดนทิ้งให้นอนคนเดียว อันนี้ไม่มีวิธีแก้นะคะ เค้าจะดีขึ้นเอง แต่แนะนำว่าไม่ควรหลบๆซ่อนๆ หรืออย่าไปหลอกล่อเอาของเล่นมาล่อให้ไปอาบน้ำหรือเข้าห้องนอนนะคะ ทำอะไรทำตรงๆไปเลย บอกตรงๆว่าถึงเวลานอนแล้วนะ ต้องอาบน้ำเข้านอน ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าไปให้ความหวังเค้านึกว่าจะได้ไปเล่นกับแม่ในห้องนอนสุดท้ายโดนหลอกแล้วจับเข้านอนคนเดียว เรื่องความซื่อสัตย์และตรงไปตรงมานี่ควรจะใช้กับลูกในทุกๆกรณีนะคะ อย่าเห็นว่าเค้าเป็นเด็กแล้วหลอกง่าย เค้าฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะ สุดท้ายจะกลายเป็นเด็กดื้อเพราะคำพ่อแม่เชื่อไม่ได้
6. หลังจากหัดไปสามวันลูกนอนเองได้แล้ววางลงเปลร้องนิดเดียวหรือไม่ร้องเลย เหมือนทุกอย่างจะราบรื่น แต่จู่ๆไม่กี่คืนถัดมากลับมาร้องไห้อีก ร้องนานกว่าคืนแรกด้วยซ้ำ ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนว่าการหัดลูกนอนโดยการปล่อยให้ร้องนี่เป็นวิธีการที่มาจากทฤษฎีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในทางจิตวิทยาเรียกว่าการสูญพันธ์ (Extinction) ชื่อน่ากลัวมากเลย.... คอนเซ็ปคร่าวๆคือเป็นการกำจัดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในกรณีนี้คือลูกง่วงแต่นอนเองไม่ได้จึงตื่นมาร้อง การกำจัดนี้ทำโดยการหยุดการให้รางวัลหรือเลิกสนับสนุนพฤติกรรมนั้นๆ ซึ่งก็คือ หยุดการเข้าไปให้นม แกว่งให้นอน หรือให้จุกหลอก ในทฤษฎีนี้มีการค้นพบว่าในระหว่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในช่วงที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง(ในกรณีนี้คือเริ่มร้องน้อยลงหรือไม่ร้องเลย) เค้าจะกลับมาทำพฤติกรรมที่เราอยากจะกำจัดอีกรอบและมาแบบหนักและนานกว่าเดิม เหมือนๆเป็นเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการถาวร ไอ้เฮือกสุดท้ายนี้ศัพท์ทางจิตวิทยาเค้าเรียกว่า Extinction burst ซึ่งช่วยอธิบายว่าทำไมเค้าร้องหนักกว่าเดิมทั้งๆที่เหมือนจะดีขึ้นแล้ว ทางออกคือปล่อยไป เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเอง วิธีเลี่ยงไม่มีนะคะ มันขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของเด็กล้วนๆ ส่วนใหญ่คนที่มาเจอปัญหานี้จะคิดว่าการหัดไม่ได้ผลแล้วก็ตัดสินใจยกเลิกไปทั้งๆที่ถ้าทนต่อไปอีกนิดก็จะสำเร็จแล้ว ตามตำราเค้าว่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณวันที่ห้า แต่จากประสบการณ์ลูกเราทั้งสองคนเป็นในช่วงวันที่ 8-11 บีบีมาในรูปแบบร้องนานกว่าปกติก่อนที่จะหลับและตื่นมาประมาณตีสามร้องชุดใหญ่อีกรอบ ส่วนดีแลนวางลงเปลหลับง่ายแต่ตื่นมาร้องชุดใหญ่ประมาณสี่ทุ่ม ทั้งสองคนเป็นแค่วันเดียวแล้วก็หาย
จบแล้วนะคะสำหรับการหัดนอน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่หาข้อมูลอยู่ ในตอนต่อไปจะเป็นเรื่องของ Wonder Weeks ซึ่งมีผลกระทบในพฤติกรรมของเด็กอายุ 1-1 1/2 ขวบ อยากรู้ว่าคืออะไรติดตามตอนต่อไปได้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ